Utai Vitamin Review ……………… วิตามิน อาหารเสริม ทุกเรื่องที่คุณอยากรู้

เริ่ม blog บ้านใหม่ คำถามยอดนิยมอันแรกๆ คือ

“เราจำเป็นต้องกินวิตามินเพิ่มมั้ยเนี่ย?”

Screen Shot 2556-08-12 at 7.08.50 AM

ภาพประกอบจาก http://www.vitamindummy.com/wp-content/uploads/2013/03/vitamin-infographic.jpg

สัปดาห์ที่แล้วอ่านหนังสือจบไปอีกเล่มนึง ชื่อ วิตามินไบเบิล แปลมาจาก The new vitamin bible เขียนโดย ดร. เอิร์ล มินเดลล์ แล้วมีอาจารย์ พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล มาเรียบเรียงให้ดอ่านเนียนง่ายขึ้นในภาษาไทยเรา จุดเด่นของเล่มนี้เขาประยุกต์ความรู้ทางโภชนาการของวิตามินต่างๆมาเข้ากับ lifestlyes ต่างๆได้ดีมาก รวมทั้งเรื่องเล่าวันนี้ คนเราทุกคนต้องการวิตามินจากอาหารต่างๆนั่นแน่อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องเสริม เพิ่ม หามาบริโภคอีกหรือไม่ เรามีคำตอบมาให้ครับ

เมื่อไร…ที่เราต้องกินวิตามิน

1. เมื่อระบบการย่อยอาหารของเรามีปัญหา

แม้ว่าเราจะรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์มากเท่าใดก็ตาม แต่ถ้าระบบการย่อยอาหารไม่มีประสิทธิภาพแล้วก็จะเป็นการจำกัดขีดความสามารถของร่างกาย ในการดูดซึมวิตามินไปใช้ได้ ทำให้ขาดวิตามินที่ต้องใช้ไปได้

2. นิสัยการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากเกินไป

จะทำลายตับและตับอ่อนซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญ ต่อการย่อยอาหารและขบวนการเมตาโบลิซึม นอกจากนี้แล้วแอลกอฮอล์ยังทำลายเยื่อบุผนังด้านในของลำไส้ ซึ่งมีผลต่อการดูดซึมอาหาร เป็นสาเหตุให้เกิดการขาดสารอาหารไปในที่สุด ยังไม่รวมสภาวะร่างกายที่ต้องเหนื่อยต่อการไปจัดการกับอัลกอฮออล์อีก

3. การใช้ยาระบายมากเกินไป

ไม่ว่าจะท้องผูกจริงๆหรือแอบใช้เพราะต้องการลดความอ้วนก้อตาม มีผลทำให้การดูดซึมของวิตามินและเกลือแร่จากอาหารลดลง เพราะอาหารผ่านลำไส้ไปอย่างรีบเร่ง ยาระบายทั้งรูปแบบยาชง ยาเม็ด ทำให้เราสูญเสียวิตามินที่ละลายในไขมัน ส่วนยาระบายในรูปอื่นๆ ที่ใช้มากเกินไปทำให้สูญเสียเกลือแร่ เช่น มิลค์ ออฟ แมกนีเซียม

Screen Shot 2556-08-12 at 7.10.55 AM

4. ขบวนการหุงต้มหรืออุ่นอาหารมากเกินไป

ประเภทเนื้อและผักนานเกินไปอาจทำให้วิตามินที่สลายตัวได้ง่าย ด้วยความร้อนเกิดการรวมตับกับออกซิเจนและถูกทำลายไป

5. คนที่เป็นโรคขาดวิตามินและสารอาหารอยู่แล้ว

6. คนที่กินยาปฏิชีวินะบ่อยๆ

แม้ว่าจะมีผลช่วยต้านทานการติดเชื้อได้ดี แต่ยาปฏิชีวนะก็ได้ทำลายแบคทีเรีย ที่มีประโยชน์ในลำไส้ไปด้วย ตามปกติแบคทีเรียนี้จะสร้างวิตามินกลุ่มบีซึ่งจะถูกดูดซึมผ่านผนังลำไส้ การขาดวิตามินบีอาจมีผลทำให้เกิดอาการต่างๆ ของระบบประสาท ในคุณผู้หญิงที่ใช้ยาฆ่าเชื่อรักษาสิวอักเสบนานๆ จะไปรบกวนระบบสมดุลย์ของแบคทีเรียที่บรเวณช่องคลอด ทำให้เกิดการตกขาวได้ง่ายเข้าไปใหญ่

7. คนที่แพ้อาหารบางประเภท หรือความเชื่อในการงดเว้นไม่รับประทานอาหารบางหมู่

เช่น ในกรณีของคนที่แพ้กลูเตนหรือแลคโตส ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณจะสูญเสียแหล่งของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น ไทอะมีน ริโบฟลาวีน หรือแคลเซียม

8. เกิดอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย

คนไข้ที่มีแผลจากไฟไหม้หรือเกิดจากการอักเสบเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สูญเสียโปรตีน และสารอาหารที่จำเป็น เช่น วิตามินและเกลือแร่ การผ่าตัดจะทำให้ร่างกายต้องการสังกะสี วิตามินอี และสารอาหารที่จะนำไปเสริมกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อเพิ่มขึ้น การซ่อมแซมกระดูกที่หักจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า ถ้าร่างกายมีปริมาณแคลเซียมและวิตามินซีไม่เพียงพอ เมื่อมีการติดเชื้อร่างกายต้องการสังกะสี แมกนีเซียม วิตามินบี 5 บี 6 เพิ่มอย่างมาก

9. ความเครียด

คนเราพออารมณ์เครียดมากๆก้อพาล ไม่มีอารมณ์หิว กิน

อาหารผิดเวลา ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ทำให้ระดับสารอาหารลดลง การรับประทานวิตามินและเกลือแร่เสริม จะช่วยรักษาระดับของสารอาหารในร่างกายได้

Screen Shot 2556-08-12 at 7.12.11 AM

10. คุณแม่ตั้งครรภ์

ทำให้ร่างกายต้องการสารอาหารมากกว่าปกติ ทั้งเพื่อความเจริญเติบโตของทารก และช่วยให้แม่คลอดง่าย สารอาหารที่ร่างกายต้องการเพิ่มมากขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ ได้แก่ วิตามินกลุ่มบี กรดโฟลิก และวิตามินบี 12 วิตามินเอ ดี อี และเกลือแร่ เช่น แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี และฟอสฟอรัส

11. การลดน้ำหนักผิดวิธี

12. ความผิดปกติของระบบพันธุกรรมที่ทำให้เราต้องการสารอาหาร หรือวิตามินบางอย่างมากขึ้น

เนื่องจากสภาพทางพันธุกรรมบางคนต้องการวิตามินตัวใดตัวหนึ่ง ในจำนวนมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป คนเหล่านี้จำเป็นต้องรับประทานวิตามินที่ขาดชนิดนั้นเสริมเพื่อป้องกันการขาด

13. ผู้สูงอายุ

มักจะรับประทานวิตามินและเกลือแร่ในปริมาณที่ต่ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล็ก แคลเซียมและสังกะสี มักจะพบว่ามีการขาดกรดโฟลิกควบคู่ไปกับการขาดวิตามินซี ปริมาณอาหารที่มีกากใยก็มักจะลดลง พบการขาดวิตามินบี 2 และวิตามินบี 6 ด้วย การขาดสารอาหารดังกล่าวอาจมีสาเหตุมาจากการที่ประสาทรับรส และกลิ่นเสื่อมลง การหลั่งเอนไซม์ของระบบย่อยอาหารลดลง โรคเรื้อรังหรืออาจเป็นเพราะความบกพร่องบางประการของร่างกาย

แหล่งข้อมูล

The Nutrition Source, Vitamins,
http://www.hsph.harvard.edu/nutritionsource/what-should-you-eat/vitamins/

Why vitamin supplements are good for you. They’re not a replacement for proper diet, though By: Randy Gruezo

Philippine Daily Inquirer, http://lifestyle.inquirer.net/54305/why-vitamin-supplements-are-good-for-you

วิตามินไบเบิล, The new vitamin bible/ เอิร์ล มินเดลล์,เขียน ; ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล, แปล, อมรินทร์สุขภาพ, 2553

นิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 25 ฉบับที่ 4 เมษายน 2544

ภาพประกอบ: whey protein คืออะไร? มาจาก http://www.4everfit.ca/tag/whey-protein-2/

เวย์ โปรตีน (Whey Protein)
เป็นแหล่งของโปรตีนคุณภาพสูง อุดมด้วย BCAAs และกรดอะมิโนครบถ้วนทั้ง 20 ชนิด เป็นโปรตีน ที่ย่อยง่าย ร่างกายสามารถ ดูดซึมไปใช้สร้างกล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเสริมสร้างมัดกล้าม เนื้อให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและช่วยซ่อมแซม กล้ามเนื้อที่สูญเสียไปขณะออกกำลังกายอย่างหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประเภทของ เวย์ โปรตีน (Whey Protein)

รูปประกอบ whey protein มาได้อย่างไร ภาพมาจาก http://www.bodybuilding.com/fun/the-problem-with-protein.html

เวย์โปรตีน คือ โปรตีนที่สกัดได้มาจากนมวัว โดยนำน้ำนมวัวที่คัดแยก จากกระบวน การทำเนยแข็งมา สกัดส่วนที่เป็น คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ออกให้เหลือส่วนที่เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ที่เข้มข้นจากนั้นนำมาผ่านกระบวน การทำให้แห้งเพื่อให้อยู่ ในรูปผงพร้อมชงดื่ม เวย์โปรตีน ทั่วไปแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่

เวย์โปรตีน คอนเซนเตรท ( Whey Protein Concentrate : WPC) ขบวนการผลิต WPC ได้จากการนำ เวย์ที่ได้ในขบวนการผลิต ขั้นต้น มาผ่านการกรอง Ultrafiltration หรือกระบวนการอื่นๆ เพื่อแยกแลกโตสและไขมันที่มีผสมอยู่มากออกไป แล้วทำให้แห้ง ผงเวย์โปรตีนที่ได้จะมีความเข้มข้นของเวย์โปรตีนประมาณมาก กว่า 29-89% โดยน้ำหนัก มีลักษณะเป็นผงสีครีมอ่อนและมีกลิ่น รสตามธรรมชาติแบบนม WPCที่สกัดได้จะอุดมไปด้วยกรดอะมิโนครบถ้วนทั้ง20ชนิดมีกรด อะมิโนจำเป็นครบถ้วนทั้ง 8 ชนิดที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ และ ยังมี Branched-chain amino acid สูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับ Growth Hormone ช่วยเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนและไกลโคเจน เพื่อช่วยเพิ่มขนาดของกล้ามเนื้อ และ WPC ยังมี Bioactive compound สูง ช่วยป้องกันการติดเชื้อและเพิ่มภูมิคุ้มกัน ได้อีกด้วย

เวย์โปรตีน ไอโซเลต ( Whey Protein Isolate : WPI ) ได้จากการนำ WPC มาผ่านกระบวนการผลิตเพิ่มเติมคือ Ion-exchange (IE) หรือ Cross-flow microfiltration (CFM) เพื่อแยกเอาแลกโตสและไขมันที่ ยังคงมีผสมอยู่บ้างออกไปอีก ทำให้ความเข้มข้นของเวย์โปรตีนสูงขึ้น คือมากกว่า 90% กระบวนการ IE ใช้วิธีแยกโมเลกุลของสารต่างๆ ออกจากกันโดย อาศัยประจุไฟฟ้า บนโมเลกุลที่ต่างกัน สามารถทำให้เวย์โปรตีนบริสุทธิ์ ได้มากที่สุด โดยอาจทำให้มีความเข้มข้นของเวย์โปรตีนได้ถึง 97-98% โดยน้ำหนักแห้ง แต่กระบวนการ CFM ซึ่งใช้ตัวกรองที่ทำจากเซรามิก สามารถรักษาโปรตีนชนิดย่อยๆ ที่มีคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ไว้ได้ดีกว่า และมีปริมาณเกลือโซเดียมน้อยกว่าเวย์โปรตีนที่ผ่านกระบวนการ IE WPI มีลักษณะเป็นผงสีครีมอ่อนและมีกลิ่นรสธรรมชาติแบบนมเช่นกัน ราคาแพงกว่า WPC

เวย์โปรตีน ไฮโดรไลซ์ ( Hydrolysed Whey Protein : HWP) คือ WPCหรือ WPI ที่ถูกผ่านกระบวนการ hydrolyze ทำให้โมเลกุลของเวย์ โปรตีนที่มีขนาดใหญ่มากถูกย่อยจนอยู่ในรูปของโมเลกุลเล็กๆ ที่เรียกว่า peptides และบางส่วนถูกย่อยลงไปจนถึงขั้นกรดอะมิโนเลย ทีเดียว มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ว่าโปรตีนที่อยู่ในรูปของ peptides สั้นๆ ถูกร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าในรูปโมเลกุลใหญ่ๆ และดีกว่ากรดอะม โนอิสระ จึงเชื่อกันว่า HWP เป็นเวย์โปรตีนที่ถูกย่อยและดูดซึมได้เร็วที่สุด นอกจากนี้ HWP ยังมีโอกาสทำให้เกิดการแพ้โปรตีนน้อยลงกว่าเวย์โปรตีน ชนิดอื่นๆ ด้วย จึงมักใช้ในสูตรนมสำหรับทารกหรือในทางการแพทย์เพื่อ จุดประสงค์พิเศษต่างๆ ข้อเสียของ HWP คือมีรสชาติที่ขมมาก ในกระบวนการ hydrolyze อาจทำลายโปรตีนชนิดย่อยๆ ที่มีคุณสมบัติพิเศษต่างบางตัวไป และ มีราคาแพง ดังนั้นเวย์โปรตีนชนิดที่เป็น HWP 100% จึงไม่มีวางขาย ตามท้องตลาด แต่เวย์บางยี่ห้อนำ HWP มาผสมกับเวย์โปรตีนชนิดอื่น มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่สูตรของผู้ผลิตเพื่อเพิ่มข้อดีบางประการดังกล่าว แต่ราคาก็จะเพิ่มขึ้นด้วย โดยปกติเวย์โปรตีนที่วางขาย มักมี HWP ผสมอยู่ ไม่เกิน 20% เพราะรสชาติที่ขม

เวย์โปรตีนแบบไหนดีที่สุด

การเลือกชนิดของเวย์โปรตีน เพื่อรับประทานขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของ การฝึกในช่วงนั้น WPC ช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อโดยตรง เหมาะสำหรับนักกีฬาทั่วไป ผู้ที่เล่นเวท หรือผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อให้เห็นผลอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผลิตภัณฑ์ WPC ในท้องตลาดมีหลากหลาย สำหรับการสร้างกล้ามอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ ควรพิจารณาเลือกสูตร WPC ที่ให้ปริมาณโปรตีนสูง เพราะนั่นหมายถึงจะให้ปริมาณไขมันและน้ำตาลต่ำด้วย แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มน้ำหนัก ควรเลือกสูตร WPC ที่มีเปอร์เซ็นต์โปรตีนไม่สูงมากโดยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้จากไขมันและคาร์โบ ไฮเดรทที่ผสมอยู่นั่นเอง ส่วน WPI นั้นจะมีไขมันและคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก เหมาะสำหรับนักกีฬาเพาะกายมืออาชีพที่ต้องการความคมชัดของกล้ามเนื้อ พร้อมกับสร้างกล้ามเนื้อในเวลาเดียวกัน

ขนาดรับประทาน
ปริมาณโปรตีนที่ร่างกายคนปกติควรได้รับในแต่ละวัน คือ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมเช่น น้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม ควรได้รับโปรตีน 60 กรัมต่อวัน

แต่สำหรับ นักกีฬา ผู้ที่เล่นเวท หรือนักเพาะกายที่ต้องการเสริมสร้างกล้าม เนื้อให้ม ีขนาดใหญ่ขึ้นปริมาณที่แนะนำ คือ 1.5- 2 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือประมาณ2เท่าของปริมาณโปรตีนปกติที่ควรได้รับต่อวันทั้งนี้เพราะร่างกายจำเป็น จะต้องใช้โปรตีนเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปเสริมสร้างมัดกล้ามเนื้อนั่นเอง

ตัวอย่างการคำนวณสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างกล้าม
ถ้าน้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม ร่างกายต้องการโปรตีน 90-120 กรัมต่อวัน เป็นต้น

รับประทานช่วงเวลาใด ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

รูปประกอบมาจาก http://genemedicine.me/slim-down-this-way/

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรับประทาน คือ ช่วงขณะออกกำลังกายภาย ในช่วง 2 ชั่วโมง โดยทั่วไปแนะนำให้รับประทานก่อนออกกำลังกาย 30 นาที หรือหลังออกกำลังกายภายใน2ชั่วโมงทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึม โปรตีนเข้าไปใช้เสริมสร้าง กล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดนั่นเอง โดยผสม ผงเวย์โปรตีน 2 ช้อนตวงกับน้ำ หรือน้ำผลไม้ 300-400 มล. เขย่าให้เข้ากันก่อน รับประทาน

แหล่งข้อมูล
http://sabai-dd.blogspot.com/2013/03/blog-post.html